Docker กับการสร้าง environment แบบ All-in-One (Docker Compose)

         Docker Compose เป็นสิ่งที่จะมายกเครื่อง Docker มากยิ่งขึ้น จากเดิม (Docker คืออะไร ?) เราได้ทดลองใช้ Docker ผ่าน CLI กันไป แต่การจะเอา container เดิมมาใช้ ก็จะมีความลำบากเล็กๆ และยิ่งถ้ามี container หลายตัวก็ยิ่งวุ่นวายไปใหญ่

assignment docker-compose.yml

         ไฟล์นี้คือหัวใจสำคัญของ docker compose เราจะต้องเขียน config ต่างๆ เข้าไปในรูปแบบ YAML ซึ่งจริงๆมันก็คือการย้ายการเขียน CLI ทีละคำสั่ง ให้อยู่ในรูปแบบไฟล์ที่สามารถอ่านได้ง่ายขึ้น ลดการเขียนคำสั่งไปได้เยอะ (ลด หมายความว่าก็ยังต้องเขียนบ้างนะ sentiment_very_satisfied )

docker-compose.yml

	version: '3.7'
	services:
	sonarqube:
	image: sonarqube
	ports:
	- 9000:9000
	- 9092:9092
	networks:
	testing_net:
	ipv4_address: 172.28.1.1
	jenkins:
	image: jenkins
	ports:
	- 8080:8080
	- 50000:50000
	volumes:
	- type: bind
	source: D:/ProjectWorkspace
	target: /project
	extra_hosts:
	- "sonar:172.28.1.1"
	depends_on:
	- sonarqube
	networks:
	testing_net:
	ipv4_address: 172.28.1.2
	networks:
	testing_net:
	ipam:
	driver: default
	config:
	- subnet: 172.28.0.0/16

view raw docker-compose.yml hosted with ❤ by GitHub

คำสั่ง Docker Compose

• สร้างและ start container ตามไฟล์ docker-compose.yml

  docker-compose up



• ดู container ที่เกี่ยวข้อง
  

  docker-compose ps

        Name                     Command                State     Ports
  ---------------------------------------------------------------------
  my-ci_jenkins_1     /bin/tini -- /usr/local/bi ...   Exit 255
  my-ci_sonarqube_1   ./bin/run.sh                     Exit 143

           * docker compose จะใช้ชื่อ folder ของเราเป็นตัวกำหนดชื่อ container เพราะฉะนั้นหากเป็นเครื่องเดียวกันที่ copy ทั้ง folder ไป มันก็ยังเห็น container เป็นของเดิมอยู่
  


• ดูรายการ network (ถ้ายังไม่ถูก down จะไม่สามารถสร้างวง network ซ้ำกันได้)
  

  docker network ls

  NETWORK ID          NAME                           DRIVER              SCOPE
  1d7fb97453ae        bridge                         bridge              local
  fbf218bef328        host                           host                local
  9c64cfd5bea9        my-ci-dockerfile_testing_net   bridge              local
  6e295959a223        my-ci_default                  bridge              local
  3834c5e3cc7b        my-ci_testing_net              bridge              local
  695f31fa231a        none                           null                local



• ถ้ามี container อยู่แล้ว จะใช้คำสั่ง up หรือ start ก็ได้ (ไม่ต่างกัน)
  

  docker-compose start



• stop container ที่เกี่ยวข้อง
  

  docker-compose stop



• ลบ container ทั้งหมด รวมไปถึง networks, images และ volumes
  

  docker-compose down

ทดสอบเข้าหน้าเว็บ

• Jenkins : http://localhost:8080
• SonarQube : http://localhost:9000

         จากไฟล์ตัวอย่าง จะเห็นว่ามีการสร้าง network config เพื่อให้ container แต่ละตัวมีการกำหนด IP ชัดเจน ทำให้การอ้างอิงกันระหว่าง container ทำได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีการ share folder จากเครื่อง host เข้าไปใช้ภายใน docker ด้วย (volumes) ซึ่งส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ docker compose ก็ทำได้ เพียงแต่ต้องเขียน command-line เองครับ

         นอกเหนือจากตัวอย่างนี้ สามารถหาข้อมูลได้ที่ Official Website >> Overview of Docker Compose ครับ และเชิญติดตามตอนต่อไปของเรื่อง Docker กันครับ

• Docker คืออะไร ? แนะนำวิธีใช้งานเบื้องต้น
• Docker กับการสร้าง environment แบบ All-in-One (Docker Compose)
• Docker ใช้งาน Dockerfile เพื่อสร้าง Docker Image ของเราเอง